ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ SMS Alert ของธนาคารกรุงเทพ

บริการฟรี  ที่ท่านควรสมัคร นอกจากประโยชน์ที่ท่านจะได้รับแจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน ยังจะช่วยอำนวยความสะดวก เช่น

การผูกบัญชีธนาคารกรุงเทพของท่าน กับ AlertPay เพื่อใช้สำหรับถอนเงินจาก AlertPay นั้น บริการ SMS Alert จะส่ง SMS เป็น USD ที่ช่วยให้ท่านทราบข้อมูลสำหรับนำไปยืนยันกับ AlertPay ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และประหยัด ดีกว่าการโทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่ของธนาคาร

บริการ SMS แจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงินนี้ สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือในเครือข่ายเอไอเอส ดีแทคและทรูมูฟ

ท่านสามารถสมัครใช้บริการ SMS แจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน ได้ที่เครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ หรือทางบัวหลวงโฟน 1333 หรือ 0 2645 5555

ข้อตกลงและเงื่อนไขการสมัครใช้บริการ
• ต้องเป็นผู้ถือบัตรเดบิตบีเฟิสต์ บัตรเครดิต หรือบัตรเอทีเอ็มของธนาคารเท่านั้น จึงจะสามารถสมัครใช้บริการ SMS แจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน
• ต้องเป็นลูกค้าบุคคลเท่านั้น
• สมัครใช้บริการ SMS แจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงินผ่านทางเครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ และบัวหลวงโฟน เท่านั้น (ยกเว้นบริการแจ้งเงินโอนต่างประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง (Direct Deposit) สามารถสมัครใช้บริการผ่านสาขาธนาคารได้)
• ท่านสามารถขอเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ในการรับ SMS ผ่านทางเครื่องเอทีเอ็มและบัวหลวงโฟน
ในกรณีที่ท่านไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ ธนาคารไม่สามารถรับผิดชอบในความเสียหาย
หากข้อความถูกส่งไปยังผู้รับท่านอื่น

ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ SMS แจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงินที่เครื่องเอทีเอ็ม 
1. สอดบัตรเข้าเครื่อง แล้วกดรหัสลับตามขั้นตอนปกติ
2. เลือกภาษาที่ต้องการ แล้วเลือก ‘สมัครบริการ’
3. เลือก ‘บริการ SMS’
4. เลือก ‘SMS ALERT’
5. อ่านรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไข จากนั้น กดปุ่ม ‘ยอมรับ’ หากท่านยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข
การให้บริการดังกล่าว
6. กดหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 10 หลักที่ท่านต้องการรับ SMS
7. กดปุ่ม‘ยืนยัน’ เพื่อยืนยันรายละเอียดการลงทะเบียน

ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ SMS แจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงินทางบัวหลวงโฟน 
1. โทรศัพท์ติดต่อบัวหลวงโฟนที่หมายเลข 1333 หรือ 0 2645 5555
2. เลือกรับ SMS ภาษาไทย ให้เลือกเมนูภาษาไทย กด 1 เลือกรับ SMS ภาษาอังกฤษ ให้เลือกเมนูภาษาอังกฤษ กด 2
3. กด **721* เพื่อเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ
4. กด 1 สมัครใช้บริการ
5. รับฟังเงื่อนไขบริการ กด 1 ยอมรับเงื่อนไขบริการ
6. กดหมายเลขบนบัตรเอทีเอ็ม บัตรบีเฟิสต์ หรือบัตรเครดิต
7. กดรหัสประจำตัว 4 หลัก
8. กดหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 10 หลักที่ท่านต้องการรับ SMS
9. กด 1 ยืนยัน กด 2 แก้ไขหมายเลขโทรศัพท์ กด 4 ฟังซ้ำ กด 9 ยกเลิกรายการ

โปรดทราบ: ในการสมัครใช้บริการ ท่านสามารถเลือกใช้บัตรเอทีเอ็ม บัตรบีเฟิสต์ หรือบัตรเครดิต เพียงบัตรใดบัตรหนึ่ง โดยผลของการลงทะเบียนจะครอบคลุมถึงบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทั้งหมดของ ท่านโดยอัตโนมัติ

Read More

ขั้นตอนการเพิ่มบัตรเครดิตลงใน AlertPay

1. คลิกที่ Add Credit Card ที่มุมขวาด้านบน

2. กรอกข้อมูลของบัตรเครดิต หรือบัตรเครดิตเสมือนของท่าน

First Name : ชื่อเจ้าของบัตรเป็นภาษาอังกฤษ
Last Name : นามสกุลเจ้าของบัตร (แสดงโดยอัตโนมัติ)
Card Number: เลขที่บัตร 16 หลัก อยู่ด้านหน้าบัตร (ป้อนตัวเลขติดกันไม่ต้องมีขีด หรือเว้นวรรค)
Expiration Date: เดือน/ปี ค.ศ. ที่หมดอายุ
Verification Code: ตัวเลข 3 หลัก  อยู่ด้านหลังบัตร หรือ CVV กรณีใช้ K-web Shopping Card

3. ยืนยันความถูกต้อง
คลิกกาเครื่องหมายลงในกล่อง By Checking this box, I agree to these terms and condition
เพื่อยอมรับว่าท่านเห็นด้วยกับข้อตกลงและเงื่อนไข

จากนั้นกดปุ่ม Submit

4. บัตรเครดิตของคุณได้รับการเพิ่มในโปรไฟล์ของคุณ ขณะนี้คุณมีวงเงินค่าใช้จ่าย
500.00 เหรียญสหรัฐต่อเดือน

Read More

วิธีการพิสูจน์บัญชี AlertPay ของท่านโดยการยืนยันโทรศัพท์มือถือ

หลังจากเปิดบัญชี AlertPay ได้แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การพิสูจน์ (Verification) บัญชี AlertPay ของท่าน โดยการยืนยันโทรศัพท์ (Phone Validation)
การยืนยันโทรศัพท์ นั้น ข้อความรหัสจะถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของท่าน ท่านจะต้องยืนยันรหัสนี้ในบัญชี AlertPay ของท่าน

ขั้นตอนการยืนยันโทรศัพท์มือถือ
1. คลิกที่ข้อความ Become Verified

2. แล้วคลิกที่ Phone Validation

3. ขอรหัส (Request Code) สำหรับยืนยันโทรศัพท์มือถือ
Send Code by:      เลือก SMS Text Message (Mobile Only)
Phone Number:    เลือกรหัสโทรศัพท์ระหว่างประเทศ สำหรับประเทศไทยเลือก +66
สำหรับช่องถัดมา ให้ท่านกรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของท่านโดยตัดเลข 0 ตัวหน้าออก

4. ส่งรหัส (Submit Code) กลับไปยัง AlertPay
หลังจากท่านได้รับ sms ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีข้อความตาม ตัวอย่าง

Your AlertPay phone validation code is XXX

Submit code here:  ให้ท่านนำรหัสที่ได้รับทางโทรศัพท์มากรอกลงในช่องนี้
แล้วคลิกปุ่ม Send เพื่อส่งรหัสที่โทรศัพท์ของท่านได้รับกลับไปยัง AlertPay

5. บัญชี AlertPay ของท่านได้รับการพิสูจน์โดย “มีการยืนยันโทรศัพท์มือถือเป็นผลสำเร็จแล้ว”

Read More

วิธีการสมัครใช้งาน AlertPay

สิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมได้แก่
1. สมุดบันทึก สำหรับจดบันทึกข้อมูลการลงทะเบียน เพื่อความรอบคอบ และเพื่อใช้แจ้งทาง AlertPay หากบัญชีมีปัญหา
2. อีเมล์ของท่านที่มีความปลอดภัยสูง สำหรับใช้เป็นชื่อบัญชี และรับข่าวสารบัญชี AlertPay ของท่าน

วิธีการสมัคร AlertPay
1. ไปที่เว็บไซด์ AlertPay โดยคลิกที่ป้ายแบนเนอร์ข้างล่าง

2. เมื่อเข้าสู่หน้าแรก (Home) ของเว็บ AlertPay แล้วก็คลิกที่ปุ่ม “Sign Up Now”

3. ในหน้าสร้างบัญชีใหม่ (Creat An AlertPay Account)
Select Your Country : เลือกประเทศที่คุณอยู่อาศัย  และเลือก (ปกติเลือกโดยอัตโนมัต)

Select Your Account Type : เลือกประเภทบัญชี โดยมีให้เลือกได้แก่
Professional Starter เป็นบัญชีที่เหมาะกับผู้เริ่มต้น ยังไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ
Professional Pro เหมาะสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย  มีค่าธรรมเนียม แต่ยอมรับบัตรเครดิตได้
Business เหมาะสำหรับองค์กร ยอมรับการจ่ายเงินได้ทุกประเภท

ควรเลือก Professional Starter 1 ไปก่อน เนื่องจากเราสามารถอัพเกรดประเภทบัญชีนี้ได้  ซึ่งการอัพเกรดนี้จะต้องทำด้วยความรอบคอบเนื่องจากเมื่อท่านอัพไปแล้วจะไม่สามารถดาวน์เกรดลงมาได้หากมีการใช้งานไปแล้ว!

หลังจากนั้นกด “Next Step” เพื่อทำขั้นต่อไป


4. หน้า Personal Information ให้ใส่ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นภาษาอังกฤษ ได้แก่
Satutation : เลือกคำนำหน้าชื่อ
First name : ชื่อจริง
Last Name : นามสกุล
Address Line 1 : ที่อยู่บรรทัดที่1
Address Line 2 : ที่อยู่บรรทัดที่2 (เว้นได้)

สำหรับการป้อนที่อยู่ใน AlertPay จะมีปัญหาข้อมูลบ้านเลขที่ เราไม่สามารถใช้เครื่องหมาย / (อ่านว่าทับ หรือภาษาอังกฤษ slash) ในการลงทะเบียน หากท่านใส่ลงไปจะไม่สามารถลงทะเบียนได้ ให้ท่านเลี่ยงไปใช้ คำว่า Thap แทน

สำหรับคำไทยเขียนเป็นภาษาอังกฤษ มีดังนี้ หมู่=M., ถนน=Rd.(ต่อท้ายคำ), แขวง=Kwaeng, ตำบล=Tambon, เขต=Khet, อำเภอ=Amphur, เมือง=Mueang

City : แปลว่า เขต หรืออำเภอ
Region : ให้ใส่ชื่อจังหวัดลงไปได้
Postal Code : รหัสไปรษณีย์
Country : ประเทศจะถูกระบุโดยอัตโนมัติ
Citizenship : พลเมืองของประเทศ (ปกติจะเลือกโดยอัตโนมัต)
Home phone : สำหรับประเทศไทยเลือก +66 หรือ 0 นั่นเอง (ปกติเลือกโดยอัตโนมัตฺ)
และในช่องถัดไปเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน ระวังอย่าใส่ 0 ตัวหน้าลงไปอีก เช่น เบอร์โทร 081xxxxxxx ให้ใส่ 8xxxxxxxx

Occupation : อาชีพ
Accounting/finance การบัญชี / การเงิน
Computer Related (Internet) เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (อินเตอร์เนต)
Computer Related (other) เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (อื่นๆ)
Consultting ที่ปรึกษา
Customer service/support บริการลูกค้า / support
Education/Training การศึกษา / การฝึกอบรม
Engineering วิศวกร
Executive/Senior Management ผู้บริหาร / ผู้บริหารระดับสูง
General Administrative/Supervisory บริหารทั่วไป / หัวหน้างาน
Government/Military ราชการ / ทหาร
Homemaker ผู้ผลิตสินค้าที่บ้าน
HR/Personel (medical, legal, etc.) HR / บุคลากร (ทางการแพทย์, กฎหมาย, อื่นๆ)
Research and Development นักวิจัยและพัฒนา
Retired ผู้เกษียณอายุ
Sale/Marketing/Advertising นักการตลาด / การขาย / การโฆษณา
Selt-emploed/Owner อาชีพอิสระ/ เจ้าของกิจการ
Student นักเรียน
Tradesman/Craftsman พ่อค้า / ช่าง
Unemployed/between jobs ว่างงาน / ระหว่างงาน
Date of Birth :  วันเกิด (ปี พ.ศ. ลบด้วย 543 เท่ากับปี ค.ศ.)

หลังจากนั้นคลิก “Next Step”

5. ในหน้า Account Information เป็นการระบุข้อมูลบัญชี  เป็นส่วนที่สำคัญมาก! ขั้นตอนนี้ควรทำด้วยความรอบคอบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเลือกอีเมล์มาใช้ เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเมื่อมีการผูกบัญชีกับคลับแอสทีเรียแล้ว  และควรมีการจดบันทึกลงสมุดบันทึกส่วนตัวของท่าน  แล้วเก็บรักษาไว้อย่างระมัดระวัง

AlertPay Account Login
Email Address : ใส่ชื่ออีเมล์ของท่าน  เพื่อใช้เป็นชื่อบัญชี AlertPay และใช้รับข่าวสารจาก AlertPay
Password : ตั้งรหัสผ่านใหม่สำหรับเข้าบัญชี AertPay ของท่าน เพื่อความรอบคอบควรจดบันทึกไว้ในสมุดก่อน
Re-enter password : ป้อนรหัสผ่านซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันความถูกต้อง
Transaction PIN : ตั้งรหัส Transaction PIN
Re-enter Transaction PIN : ป้อนรหัส Transaction PIN ซ้ำอีกครั้ง


Password Recovery  สำหรับกู้คืนรหัสผ่าน
Security Question #1: เลือกคำถามที่ 1
Answer #1: ใส่คำตอบที่ 1
Security Qurstion #2:  เลือกคำถามที่ 2
Answer #2: ใส่คำตอบที่ 2

Third party information
บัญชีนี้จะถูกใช้โดยบุคคลใดหรือองค์กรอื่นที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง หรือไม่? (หมายถึง "บุคคลที่สาม")?
ถ้าเลือก Yes ใช้หลายคน, เลือก No ใช้เพียงคนเดียว

Word Verification
พิมพ์ตัวอักษร ที่ท่านมองเห็น

คลิกกาลงช่องสี่เหลี่มหน้าข้อความ แล้วกด Final Step

6. หน้าต่าง Validate Email เป็นข้อความจากระบบแจ้งให้ท่านไปเช็คอีเมล์ แล้วคลิก validation Link เพื่อยืนยันอีเมล์

หลังจากคลิกลิงค์ยืนยันดังกล่าวแล้ว ก็จะเข้าสู่บัญชี AlertPay โดยอัตโนมัต และจบขั้นตอนการสมัครใช้งาน AlertPay ซึ่งมีการยืนยันอีเมล์

Read More

วิธีการสมัครใช้บริการบัวหลวงไอเพย์ และ Verified by Visa ด้วยบัตร Be1st

วิธีการสมัครใช้บริการบัวหลวงไอเพย์ด้วยบัตรบีเฟิสต์
แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ซึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมได้แก่ โทรศัพท์มือถือของท่าน, บัตรบีเฟิสต์, คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต และที่ควรจัดไว้คือ สมุดบันทึกและปากกา เพื่อช่วยให้ท่านทำด้วยความรอบคอบ

ขั้นตอนที่ 1
กำหนดหมายเลขอ้างอิง (Reference Code) ด้วยตนเองโดยลงทะเบียนผ่านบริการบัวหลวงโฟน และทำตามขั้นตอนย่อยๆ ดังนี้
1.เขียนหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่ท่านต้องการตั้ง ลงในสมุดบันทึกของท่านก่อน
2.โทรศัพท์ไปยังบริการบัวหลวงโฟน 1333 หรือ (66) 0-2645-5555 (สำหรับต่างจังหวัดจะเสียค่าโทรศัพท์ทางไกล ดังนั้นควรทบทวนขั้นตอนให้คล่องก่อนทำ)
3.กด 1 เลือกภาษาไทย
4.กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
5.กด 1 บริการบัวหลวงไอเพย์
6.กดหมายเลขบัตรบีเฟิสต์ของท่าน 16 หลัก (ด้านหน้าบัตรบีเฟิสต์)
7.กดรหัสลับส่วนตัว (PIN) ของท่าน 4 หลัก (รหัสผ่าน ATM)
8.กดตั้งหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่ท่านต้องการ แล้วกด #  (ดูจากสมุดบันทึกของท่าน)
9.กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลักอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน แล้วกด # (หมายเลขอ้างอิงนี้จะหมดอายุภายใน 7 วัน)

ขั้นตอนที่ 2
การสมัครใช้บริการ Verified by Visa โดยลงทะเบียนผ่านบริการบัวหลวงไอเพย์ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1.เข้าเว็บไซต์ Bualuang iPay ที่ www.bangkokbank.com/bualuangipay
2.คลิกเมนู "สมัครเข้าใช้บริการ Verified by Visa"
3.ใส่หมายเลขบัตรเดบิต (บัตรบีเฟิสต์) ของท่านแล้วกดปุ่ม "Next / หน้าต่อไป" เพื่อเริ่มต้นการสมัคร
4.ใส่หมายเลขอ้างอิง (Reference Code) 8 หลัก ที่ได้ท่านลงทะเบียนผ่านบริการบัวหลวงโฟน แล้วกดปุ่ม “Next / หน้าต่อไป”
5.ช่อง กำหนดข้อความยืนยันส่วนตัวของท่าน ให้ท่านตั้งอะไรก็ได้เป็นภาษาอังกฤษและจดไว้ในสมุดบันทึกด้วย
6.ช่อง ตั้งรหัสผ่าน Verified by Visa ของท่าน ให้ท่านกำหนดขึ้น 6 หลักเป็นตัวเลขอย่างเดียว และจดไว้ด้วยเช่นกัน
7.ช่อง ยืนยันรหัสผ่านของท่านอีกครั้งนึง  ให้ท่านกรอกพาสเวิร์ดซ้ำอีกครั้ง 2 ช่องต้องเหมือนกัน
8.ช่องที่อยู่อีเมล์ของท่าน ให้ท่านกรอกอีเมล์ของท่าน
9.ช่อง ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของท่าน ระบบจะใส่ 66 หรือ 0 ไว้ให้แล้ว ระวังอย่าพิมพ์ซ้ำ ให้ท่านใส่เลข 8xxxxxxxx ต่อได้เลย  และกด “Next / หน้าต่อไป”
10.อ่านข้อตกลงบริการ Verified by Visa แล้วติ๊ก ยอมรับในช่องสี่เหลี่ยมหน้า “I agree / ยอมรับ”  แล้วกดปุ่ม  “Next / หน้าต่อไป” เพื่อจบขั้นตอนลงทะเบียนใช้บริการ Verified by Visa

บริการบัวหลวงไอเพย์ คือ อะไร?
บริการบัวหลวงไอเพย์ เป็นบริการที่สนับสนุนระบบ "Verified by Visa (VbV)" และ “MasterCard SecureCode™”
Verified by Visa เป็นระบบชำระเงินชนิดใหม่ที่คิดค้นโดย VISA  เพื่อลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เนต
 ซึ่งผู้ถือบัตรจะสามารถตั้งรหัส VbV และข้อความยืนยันส่วนตัว (Personal Assurance Message - PAM) สำหรับใช้ในการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีผู้ใดนำบัตรของตนไปใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์ได้ถ้าไม่มีรหัส VbV และรหัส PAM

เมื่อผู้ถือบัตรซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่รองรับระบบนี้ ระบบจะแสดงข้อความ PAM ของผู้ถือบัตร หรือ ข้อความ PG เพื่อยืนยันว่าร้านค้าดังกล่าวได้ลงทะเบียนระบบ Verified by Visa หรือ MasterCard SecureCode™ ไว้อย่างถูกต้อง

Read More

วิธีการสมัครบัตรบีเฟิสต์ (Be1st Visa Debit Card)

วิธีการสมัครบัตรบีเฟิสต์
ใช้หลักฐานในการสมัคร ซึ่งมี 2 อย่างคือ บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และสมุดบัญชีสะสมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน ในสาขาที่ท่านสมัคร
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท และค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท สมัครได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา
ไม่จำเป็นต้องมีเงินฝากมาก เพียงแค่ 500 บาท ก็สมัครบัตรบีเฟิสต์ได้ แต่ในกรณีนี้ขอแนะนำท่านฝากเงินไว้ในบัญชีอย่างต่ำประมาณ 700 บาท  สำหรับเผื่อชำระค่าอัพเกรดเป็นสมาชิกโกลด์ ของคลับ Asteria
วิธีการสมัครเหมือนกับการสมัครบัตร ATM แต่เพิ่มเติมตรงที่ต้องมีการกำหนดวงเงินใช้จ่ายต่อวัน
ท่านสามารถเลือกกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงวงเงินจ่ายต่อวัน ได้ตั้งแต่ 20,000 บาท/ 50,000 บาท/ 100,000 บาท/ 150,000 บาท

การตั้งวงเงินในการใช้จ่ายสินค้า
1.โทรศัพท์ไปยังบริการบัวหลวงโฟน 1333 หรือ (66) 0-2645-5555
2.กด 1 เลือกภาษาไทย
3.กด 3 อายัติบัตร สอบถามหรือเปลี่ยนวงเงินบัตรบีเฟิร์ส
4.กด 3 สอบถามและเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าต่อวันของบัตรบีเฟิสต์
5.กด 2 เปลี่ยนแปลงวงเงินซื้อสินค้าต่อวัน
6.กดหมายเลข 16 หลัก ดูที่หน้าบัตรบีเฟิสต์
7.กดรหัสผ่าน ATM 4 หลัก
8.เลือกวงเงิน ให้กดตัวเลือกเพื่อตั้งวงเงินตามความเหมาะสม ซึ่งท่านสามารถกลับมาตั้งค่าใหม่ได้ตามต้องการ


ข้อมูลสำคัญของบัตรเดบิต คือ อะไร?
ข้อมูลสำคัญของบัตรเดบิด สำหรับใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน มีดังนี้
1.เลขที่บัตร 16 หลัก อยู่ด้านหน้าบัตร
2.ชื่อเจ้าของบัตร (Cardholder Name) เป็นภาษาอังกฤษ
3.วันบัตรหมดอายุ (Expiration Date (EXP)) แสดงเป็น เดือน/ปี ค.ศ.
4.เลข Card Security Code (CSC) หรือ Card Verification Code (CVC) หรือ Card Verification Value (CVV2) เป็นตัวเลข 3 หลัก  อยู่ด้านหลังบัตร ตรงท้ายช่องลายเซ็นต์ หากเป็นบัตรรุ่นเก่าให้ดู 3 หลักสุดท้ายด้านหลังบัตร

บัตรบีเฟิสต์ คือ อะไร?
บัตรบีเฟิสต์ หรือบัตรเดบิตบีเฟิสต์ (Be1st Visa Debit Card)  คือ บัตรเดบิตวีซ่าของธนาคารกรุงเทพ  ใช้เป็นบัตร ATM และเป็นบัตร Debit สำหรับชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่มีเครื่องหมาย VISA ทุกแห่งในประเทศไทย และใน 170 ประเทศทั่วโลก บัตรเดบิตต่างจากบัตรเครดิตตรงที่ต้องมีเงินในธนาคารก่อนจึงใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้

นอกจากนี้ท่านยังสามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเตอร์เน็ตได้ทันที  แต่ยังไม่ปลอดภัย ดังนั้นท่านจำเป็นจะต้องสมัครใช้บริการบัวหลวงไอเพย์ (Bualuang iPay) เพื่อใช้บริการ Verified by VISA (พิสูจน์โดยวีซ่า) โดยจะมีการยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรอย่างถูกต้องเมื่อมีการชำระค่าสินค้า และบริการทางอินเตอร์เน็ต

Read More